ประกันอัคคีภัยบ้านว่าคุ้มครองอะไรบ้าง และมีวิธีคำนวณเบี้ยอย่างไรบ้าง

ไฟไหม้บ้านคือปัญหาใหญ่ที่คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะมันสร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ยิ่งช่วงหน้าร้อนใกล้เข้ามา มักมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดไฟไหม้บ้านขึ้นได้จากหลายๆสาเหตุ “ทำประกันอัคคีภัยบ้าน” เป็นอีกวิธีการที่จะช่วยบรรเทาและฟื้นฟูความเสียหายแก่เจ้าของบ้าน ซึ่งหากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น ก็จะโอนความเสี่ยงไปยังบริษัทประกัน เจ้าของบ้านไม่ต้องมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ และยังมีทุนเอาไว้ซ่อมแซมบ้านอีกด้วย

สำหรับวันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกประกันอัคคีภัยบ้านว่าคุ้มครองอะไรบ้าง และมีวิธีคำนวณเบี้ยอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะสามารถเลือกแผนประกันภัยให้ได้ความคุ้มค่าและเหมาะสมกับบ้านของเรามากที่สุด…ไปดูกันเลยค่ะ

ประกันอัคคีภัยบ้านคืออะไร ทำไมต้องซื้อ?

ทำไมเวลายื่นกู้ซื้อบ้าน นอกจากจะมีรายการค่าใช้จ่ายต่างๆหลายรายการแล้ว ทำไมธนาคารยังต้องบังคับให้ซื้อประกันอัคคีภัยพ่วงไปด้วย มันสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ? และถ้าไม่ซื้อล่ะ ได้หรือไม่?

คำตอบคือ…ถ้าคุณเป็นคนที่ยื่นกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยกับทางธนาคาร ดังนั้น “ต้องซื้อ” ค่ะ เพราะประกันอัคคีภัย เป็นประกันภาคบังคับตามระเบียบผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องมีเพื่อรองรับความเสี่ยงแก่บรรดาสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้สินเชื่อบ้านให้แก่เรา จริงอยู่ที่เหตุเพลิงไหม้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมารับประกันว่ามันจะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นธนาคารที่ปล่อยกู้จะได้มีหลักประกันในสินทรัพย์นั่นเองค่ะ

ส่วนทางฝั่งของเจ้าของบ้านเอง แม้จะต้องจ่าย…แต่ถ้าทำไว้เราก็มองว่าเป็นเรื่องดี เพราะสามารถรองรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างมาก ครอบคลุมมูลค่าบ้านได้สูงถึง 100% เลยทีเดียว และยังคุ้มครองความเสียหายจากเหตุภัยพิบัติอื่นๆด้วย ซึ่งเบี้ยประกันไม่สูงมาก ทำไว้ก็ไม่เสียหายอะไรค่ะ

“กู้เงินธนาคารซื้อบ้าน ตามกฏหมายแล้วต้องทำประกันอัคคีภัยเสมอ ไปจนกว่าจะผ่อนบ้านหมดตามสัญญา”

ตามกฎหมายแล้วผู้กู้ซื้อบ้านจะต้องทำประกันอัคคีภัยตลอดอายุสัญญาผ่อนบ้าน ซึ่งระยะเวลาประกันอัคคีภัยส่วนใหญ่จะมีทั้งคราวละ 2-3 ปี หรือบางแผนก็ครอบคลุม 5 ปีขึ้นไปก็มี และต้องมีการต่อประกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะผ่อนบ้านหมด หลังจากนั้นจะทำประกันต่อหรือไม่นั้นก็แล้วแต่จะเลือก จะไม่มีการบังคับอีกต่อไป

ขยายความสักนิด เมื่อระยะเวลาคุ้มครองตามกรมธรรม์เดิมหมดอายุ แต่เรายังผ่อนบ้านไม่หมด ถึงยอดหนี้จะลดลง อย่างไรก็ตามเรายังคงต้องต่อกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยฉบับใหม่ต่อไปจนกว่าจะผ่อนบ้านหมด โดยยังอิงตามมูลค่าของบ้าน ทั้งนี้เราอาจเปลี่ยนเป็นแผนที่ปรับลดเบี้ยประกันลดลงก็ได้ หรือในกรณีที่เราอยากเพิ่มเบี้ยประกันให้ครอบคลุมทรัพย์สินภายในบ้านด้วยก็ย่อมทำได้เช่นกันค่ะ ทางที่ดีเบี้ยประกันควรจะสัมพันธ์ไปกับมูลค่าของบ้านและทรัพย์สินเสมอ

“ซื้อบ้านด้วยเงินสด หรือสร้างบ้านเอง ไม่ได้กู้เงินธนาคาร กฏหมายไม่ได้บังคับให้ต้องทำประกันอัคคีภัย”

อีกกรณีที่น่าสนใจของคนที่ซื้อบ้านด้วยเงินสด รวมถึงคนที่สร้างบ้านเองไม่ได้กู้เงินธนาคาร กฏหมายไม่ได้บังคับให้ต้องซื้อประกันอัคคีภัย เนื่องจากไม่ต้องมีหลักประกันให้กับธนาคารใดๆ แต่ถึงจะไม่มีข้อบังคับ ในมุมมองของเราก็มองว่าการทำประกันอัคคีภัยไว้ก็เป็นเรื่องที่ดีนะคะ ช่วยรองรับความเสี่ยงในอนาคต เพราะเวลาไฟไหม้บ้านที มูลค่าความเสียหายน่าจะเยอะอยู่แล้ว เสียเงินซื้อประกันหลักพันยังดีกว่าต้องเสียเงินหลักแสนหรือหลักล้านเพื่อมาตามซ่อมบ้านภายหลัง

ยืดวอลลุ่มคงความพลิ้วสวยอย่างเป็นธรรมชาติของเส้นผม

การยืดผมแบบวอลลุ่ม ช่วยแก้ปัญหาการยืดผมที่ลีบแบนหลังผ่านการทำเคมี ซึ่งหลายคนคงจะเคยเจอปัญหาเวลาที่ไปยืดผมมา แล้วช่วง 2-3 วัน หรืออาทิตย์แรก ผมของเราจะดูลีบแบน ติดหนังศีรษะ สำหรับคนผมสั้นหน่อย ก็อาจทำให้ผมดูแข็ง ชี้ไม่เป็นทรง กว่าจะเข้าที่เข้าทางให้ผมดูตรงสวยก็ต้องใช้เวลาอีกหลายวัน แต่ปัจจุบันนี้มีเทคนิคในการยืดผมที่เข้ามาช่วยทำให้ชีวิตของสาวๆ ที่อยากมีผมตรงง่ายขึ้น นั่นก็คือ ยืดวอลลุ่ม นั่นเอง

การยืดผมแบบเดิมนั้น จะเน้นที่การทำให้เส้นผมตรงมากที่สุด ซึ่งข้อเสียก็คือ ทำให้เส้นผมลีบแบนหลังการยืด ดูแล้วไม่สวยพลิ้วเป็นธรรมชาติ แต่การยืดผมแบบวอลลุ่มนั้น เป็นเทคนิคที่มาช่วยแก้ปัญหาผมลีบแบบดังกล่าว โดยใช้การยืดแบบยกโคนผม เพื่อทำให้ผมของเรานั้นดูพองหนา มีวอลลุ่มมากขึ้น และมักจะม้วนปลายผมแบบ C-curve เพื่อให้ปลายผมดูงุ้มเข้าสวยงาม ยืดวอลลุ่มเหมาะมากกับคนที่มีผมเส้นเล็ก หยิก หยักศก เพราะจะช่วยให้เส้นผมของเราดูมีมิติมากขึ้น และช่วยเพิ่มวอลลุ่มบริเวณโคนผมด้านบนศีรษะทำให้ผมของเราดูหนาขึ้น  ซึ่งช่างอาจจะมีเทคนิคในการยืดผมที่แตกต่างกันไป ซึ่งเทคนิคการยืดผมแบบนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคนอยากยืดผมให้ตรง แต่ยังความพลิ้วสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

ยืดผมวอลลุ่ม นอกจากจะทำให้ผมของเรานั้นตรงสวยและพองหนาแล้ว ยังช่วยให้เราจัดแต่งทรงผมได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะวอลลุ่มสวยๆ จะทำให้ผมของเราดูหนานุ่มตลอดเวลา ไม่ลีบแบนระหว่างวัน และมีความพลิ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติ เรียกได้ว่าเพียงจัดแต่งทรงเพิ่มอีกนิดหน่อย ก็ได้ทรงผมสวยๆ เรียบร้อยแล้ว

ยืดวอลลุ่ม แบบปลายลอน ยืดผมวอลลุ่ม แบบปลายลอน คือการยืดที่โคนผม และดัดช่วงปลายผมให้เกิดลอนที่สลวยขึ้นมา โดยเราสามารถเลือก หรือระบุได้ว่าต้องการลอนแบบไหน จะลอนแน่นๆ เด้งๆ หรือจะเลือกลอนคลายๆ แบบธรรมชาติ ก็ได้ ซึ่งการยืดผมวอลลุ่มแบบนี้เหมาะกับคนที่มีผมหยักศก แต่ไม่ถึงกับหยิกมาก

ยืดวอลลุ่ม ลอนคลายช่วงปลายผม ยืดผมวอลลุ่ม ที่ยืดผมด้านบนให้ตรง แต่ช่วงปลายจะเป็นลอนคลายสวยๆ จะช่วยให้ผมที่เส้นเล็ก ลีบแบน กลับดูหนา และดูมีเนื้อผมเยอะขึ้น อีกทั้งยังดูสวยเป็นธรรมชาติมากกว่าผมตรงธรรมดาๆ สำหรับใครที่เจอปัญหายืดผมมาแล้ว แต่ผมดูตรงทื่อมากเกินไป ลองเปลี่ยนมายืดวอลลุ่มดูสักครั้ง แล้วจะติดใจแน่นอน

ยืดวอลลุ่มปลายงุ้มตัว C ยืดผมวอลลุ่ม ที่ให้ปลายงุ้มเป็น C Curl แบบนี้ จะยืดโคนผมให้ตรง ส่วนช่วงปลายผมจะเอาเข้าเครื่องดัดดิจิตอล เพื่อทำให้ปลายงุ้มเข้าหาใบหน้า ให้มีลักษณะโค้งคล้ายตัว C ซึ่งผมปลายงุ้มแบบนี้นอกจะให้ผมตรงดูเป็นธรรมชาติแล้ว ยังช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย

ดัดวอลลุ่มปลาย แต่สำหรับใครที่มีผมตรงอยู่แล้ว แต่อยากมีผมสวยๆ แบบผมยืดวอลลุ่มบ้าง ก็ให้เลือกดัดวอลลุ่มเฉพาะปลายผมแทน โดยไม่ต้องยืดโคนผม แต่จะดัดปลายผมให้งุ้มเป็นตัว C หรือเป็นลอน ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ  และแน่นอนว่าราคาก็ย่อมถูกกว่าการยืดผมทั้งหัว เพราะทำแค่ดัดปลายผมเพียงขั้นตอนเดียวเท่านั้น

กันสาดอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มเนื้อที่ใช้สอยในทุกพื้นที่ สามารถกันแดดและกันฝนได้

กันสาดอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มเนื้อที่ใช้สอยในทุกพื้นที่ สามารถกันแดดและกันฝนได้กันสาดพับได้ กันสาดอัตโนมัติพับเก็บได้ หรือ กันสาดอัตโนมัติ (แล้วแต่จะเรียกกัน) แต่ก็คือรูปแบบหนึ่งของกันสาดผ้าใบที่สามารถยื่นออก (แขนยื่นออกไป) และม้วนพับเก็บได้ในลักษณะแนวนอน สามารถติดตั้งในองศาเฉียงดิ่งลงได้เล็กน้อยประมาณ 25-30 องศา ทำขนาดกว้างได้ตั้งแต่ 2 – 8 แขนยื่นออกได้ 1.50 – 3.50 m. (ขึ้นอยู่กับรุ่น) ในท้องตลาดจะมีงานหลายเกรด ส่วนที่ต้องสังเกตุให้ดีคือโครงสร้างของกันสาดควรเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด จึงจะแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน ส่วนของการควบคุมกันสาดมีทั้งระบบมือหมุน หรือระบบมอเตอร์ไฟฟ้าให้เลือก กันสาดอัตโนมัติรูปแบบนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในต่างประเทศ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด เช่น ต้องการความยื่นมาก แต่ไม่อยากตั้งเสาให้เกะกะ และไม่ต้องการให้พื้นที่ปิดทึบตลอดเวลา เช่น หน้าร้าน หน้าบ้าน-อาคาร ป้อมยาม ฯลฯ และช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยบริเวณใต้กันสาด

กันสาดผ้าใบรูปแบบใหม่ กันสาดสามารถยื่นออกและม้วนพับเก็บได้ขณะไม่ใช้งาน โดยมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ แขนอลูมิเนียมของกันสาดอัตโนมัติ ที่ทำให้ใช้งานง่ายโครงสร้างและอุปกรณ์ของกันสาดเป็น Anodized Aluminium Alloy ซึ่งมีความแข็งแรงสูงและปลอดสนิม อุปกรณ์ทุกชิ้นมีความประณีต สวยงาม กันสาดอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มเนื้อที่ใช้สอยในทุกพื้นที่ สามารถกันแดดและกันฝนได้ ลดความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่ภายในอาคาร และม้วนเก็บได้ตามความต้องการ ไม่บดบังทัศณียภาพ กันสาดอัตโนมัติ พับเก็บได้ ยังสามารถใช้ตกแต่งร้านค้า ร้านอาหาร ภัตตาคาร บริษัท โรงแรม รีสอร์ท ช่วยเพิ่มความภูมิฐาน สง่างาม หรูหรา สวยงามสไตล์โมเดิร์น

นอกจากนี้ กันสาดผ้าใบอะคริลิค ผ้าใบ PVC ยังสามารถสกรีนชื่อหรือโลโก้ของบริษัทหรือร้านค้า ลงบนผ้าใบ เพื่อเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้อีกด้วย

คุณสมบัติเด่น : โครงสร้างแข็งแรง – พับเก็บได้เรียบร้อย (บางรุ่นพับเก็บได้ในกล่องมิดชิด)
ข้อดี : กันแดด กันฝน ช่วยเพิ่มความภูมิฐานให้กับสถานที่
ข้อเสีย : ต้องระวังเรื่องลมแรง หรือ ฝนตกหนัก (ควรพับเก็บเพื่อป้องกันความเสียหาย) *ในระบบมอเตอร์สามารถติดอุปกรณ์เสริม เซ็นเซอร์ลม เซ็นเซอร์แดด
ชนิดผ้าใบที่เหมาะสม และแนะนำ : ผ้าใบทอสังเคราะห์ (Acrylic Docril)